คาราเต้    Contact: admin@shiramizu-thailand.com   mobile: 092-6199 339    Facebook  QR Code FB

ประโยชน์ของคาราเต้คืออะไร

คาราเต้ไม่ได้เป็นศิลปะการป้องกันตัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังดีเยี่ยมต่อสุขภาพโดยรวมและสวัสดิภาพความปลอดภัย

A person smiling for the camera

Description automatically generated

คาราเต้ยังเป็นการฝึกที่สมบูรณ์แบบต่อการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เทคนิคศิลปะการป้องกันตัวต่างๆ จะช่วยให้คุณพัฒนากำลังกายและคงให้ร่างกายของคุณแข็งแรงและยืดหยุ่น

คาราเต้เป็นศาสตร์ของการฝึกฝน การออกกำลังกาย และเป็นรูปแบบหนึ่งของศิลปะป้องกันตัวที่มีประโยชน์สำหรับบุคคลทุกวัย การวิจัยพบว่าคาราเต้มีประโยชน์มากมายมหาศาลต่อร่างกายและจิตใจ ขณะที่ประโยชน์ต่อร่างกายจะเห็นได้ชัด ประโยชน์ที่มีต่อจิตใจก็ไม่ควรมองข้าม

คุณจะได้เรียนรู้การป้องกันตัวเอง

สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างแรก คือคาราเต้จะสอนทักษะการป้องกันตัวที่ใช้ได้จริง

เหมือนกับศิลปะการต่อสู้รูปแบบอื่น การฝึกคาราเต้จะทำให้คุณได้เทคนิคและเครื่องมือที่สามารถช่วยชีวิตของคุณในสถานการณ์คับขัน คาราเต้ช่วยให้คุณพร้อมที่จะป้องกันตัวจากผู้เข้ามาทำร้ายทั้งหลาย โดยให้ความสามารถในการตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ต่อสถานการณ์ที่อันตรายหรือคุกคามถึงชีวิต

สิ่งที่คุณได้เรียนรู้ในชั้นเรียนสามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างง่ายดาย คุณจะไม่เพียงแค่เรียบรู้หนทางในการป้องกันตัวเองจากการทำร้ายข้างถนนหรือในเหตุการณ์อื่นๆ คุณยังจะได้เรียนรู้ทัศนคติและยุทธวิธีที่จะเลี่ยงสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุด

คาราเต้จะสอนการต่อย การเตะ การบล็อก การหลบและเทคนิคการหลบหลีกที่ใช้ได้จริง ซึ่งจะเปลี่ยนร่างของคุณเป็นอาวุธทรงประสิทธิภาพได้

คาราเต้ให้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร

ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงประโยชน์ที่หลากหลายในด้านสมรรถภาพทางกายจากการเรียนรู้และฝึกฝนคาราเต้

คาราเต้ทำให้เกิดการออกกำลังกายที่กว้างและหลากหลาย คาราเต้ยังเป็นกิจกรรมแอโรบิกชั้นสูงที่ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายอย่างแท้จริง ทั้งความทนทาน ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่น การทรงตัว ตลอดถึงพละกำลังโดยรวมทั้งหมดก็จะพัฒนาขึ้นจากการฝึกคาราเต้

คาราเต้ยังเป็นการฝึกฝนร่างกายอย่างสมบูรณ์ ช่วยลดน้ำหนัก และดีต่อสุขภาพและสมรรถภาพทางร่างกายโดยรวม

1. การฝึกฝนร่างกายโดยสมบูรณ์

คาราเต้แทบจะนับเป็นการฟิตเนสและโปรแกรมลดน้ำหนักที่ให้การฝึกฝนร่างกายทุกส่วน โดยมีจุดมุ่งหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพของหัวใจและหลอดเลือด ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ และความแข็งแรง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าคาราเต้เป็นหนึ่งในวิธีออกกำลังกายสำหรับร่างกายทุกส่วนที่ดีที่สุด เป็นการรวมการออกกำลังกายแบบแอโรบิค การฝึกความทนทาน และสร้างกล้ามเนื้อระหว่างการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน

สิ่งที่น่าทึ่งเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการฝึกคาราเต้ไม่ใช่แค่เพียงประสิทธิภาพในแง่ศิลปะป้องกันตัว แต่ยังเป็นการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงร่างทั้งร่างของคุณอย่างรวดเร็วอีกด้วย ลองจินตนาการว่าคนที่ใช้เวลาการฝึกหนึ่งชั่วโมงที่ทั้งต่อย เตะ ปัดป้อง หลบหลีก และเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดหย่อนว่าจะแข็งแกร่งได้ขนาดไหน

ระหว่างชั้นเรียนคาราเต้ที่เข้มข้น คุณจะได้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง อัตราการเต้นของหัวใจคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดตลอดการฝึก ซึ่งหมายความว่าคุณจะเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินระหว่างนั้นด้วย 

2. เพิ่มความแข็งแรงของหัวใจและหลอดเลือด

หนึ่งในประโยชน์สำคัญที่สุดของคาราเต้คือผลที่มีกับระบบหัวใจและหลอดเลือด การฝึกคาราเต้จะทำให้เลือดของคุณสูบฉีดและสั่งหัวใจของคุณให้เต้นอย่างแข็งขัน ซึ่งช่วยพัฒนาสุขภาพหัวใจของคุณได้

การฝึกคาราเต้เป็นการใช้กล้ามเนื้อส่วนใหญ่ในร่างกาย การฝึกฝนจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจดีขึ้น ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพในการรับเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าคาราเต้จะเป็นทางเลือกในการบริหารและฝึกหัวใจและหลอดเลือดทั้งหมดอย่างดีเยี่ยม

คุณจะลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและอาการเส้นโลหิตในสมองแตกอย่างเฉียบพลันด้วยอัตราการเต้นหัวใจที่ดีขึ้นอีกด้วย

3. พัฒนาการประสานสัมพันธ์และปฏิกิริยาตอบสนองของอวัยวะ

แง่มุมของประโยชน์ที่แตกต่างอย่างชัดเจนที่สุด ของการฝึกศิลปะการต่อสู้ชนิดใดก็ตามอย่างเสมอต้นเสมอปลาย คือผลของการประสานและทำงานร่วมกันระหว่างกล้ามเนื้อและร่างกายส่วนต่างๆ ยิ่งมีประสบการณ์มากขึ้น คุณจะมีท่วงท่าและเทคนิคที่ต้องใช้มากขึ้น ในการพัฒนาการประสานสัมพันธ์ของร่างกายโดยรวม ตลอดจนการทำงานร่วมกันระหว่างมือกับตา

งานวิจัยได้พิสูจน์ว่า คุณจะไม่เพียงพัฒนาปฏิกิริยาตอบสนองเป็นอย่างมากจากการฝึกคาราเต้เฉพาะในสำนัก แต่ก็ยังมีผลในชีวิตประจำวันด้วย เช่นการขับรถเป็นต้น

4. พัฒนาความตึงตัวของกล้ามเนื้อ

คุณสามารถเพิ่มความตึงตัวและจำนวนมวลกล้ามเนื้อในร่างกายของคุณจากการเรียนคาราเต้ เชื่อเราเถอะว่าการฝึกฝนคาราเต้จะพัฒนาและทำให้กล้ามเนื้อแทบทุกส่วนในร่างกายของคุณแข็งแรงขึ้น

การวิดพื้น ออกกำลังช่วงท้อง หรือฝึกท่ายืนม้าพื้นฐาน (คิบะ ดาจิ) หรือท่ายืนเท้าห่าง (เซ็นคุตสุ ดาจิ) จะช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องแคล่วโดยรวมที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงสามารถป้องกันความเสี่ยงในการล้มเมื่อคุณอายุมากขึ้นได้

5. พัฒนาพละกำลัง

คาราเต้จะช่วยให้คุณมีร่างกายที่สุขภาพดี แข็งแรง และเปี่ยมด้วยพลัง

คาราเต้ไม่เพียงแต่พัฒนากล้ามเนื้อ แต่จะเพิ่มแรง กำลัง และความทนทานของกล้ามเนื้อ ซึ่งมีวิธีการฝึกเพียงส่วนน้อยสามารถทำได้

ผู้ฝึกคาราเต้มักฝึกซ้อมด้วยการออกกำลังที่หลากหลาย เช่นการวิดพื้น การทำท่าครันช์ และการออกกำลังกายแบบบอดี้เวทต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการสร้างกำลังของกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนการต่อสู้จะให้ผลอย่างแท้จริงในระยะยาวในท้ายที่สุด

การคงท่ายืนม้าพื้นฐานให้ต่ำและต่อยออกไปในระยะเวลาต่อเนื่อง จะนำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของกำลังโดยรวมอย่างมาก โดยการเพิ่มประสิทธิภาพให้สะโพก ต้นขา แกนกลางลำตัว และไหล่

การฝึกกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอเป็นพื้นฐานของคาราเต้ ดังนั้น หากคุณต้องการที่จะให้กล้ามเนื้อกระชับและเพิ่มเรี่ยวแรงและพละกำลัง การฝึกคาราเต้ก็จะเหมาะกับความต้องการของคุณ   

 

 

6. พัฒนาแรงกายและความอดทน

เนื่องจากคาราเต้เป็นการออกกำลังกายร่างกายทุกส่วน จึงเป็นการเพิ่มความอึดและความทนทานโดยรวมจะเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แนวทางการฝึกคาราเต้ ทั้งการจู่โจม การปัดป้อง และการออกกำลังกายแบบบอดี้เวท ออกแบบมาให้ร่างกายได้พัฒนาความอดทนจากการต้องใช้พลังงานในปริมาณมาก

การฝึกซ้อมด้วยความสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความทนทานให้กับร่างกายทุกส่วนและยังช่วยพัฒนาสมรรถภาพในการหายใจ ในไม่กี่สัปดาห์ คุณจะพบว่าคุณมีความอดทนและทนทานที่มากขึ้น คุณจะซ้อมได้นานขึ้นและรู้สึกเหนื่อยน้อยลง

การพัฒนาแรงกายจึงเป็นสิ่งจำเป็นการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพ จากการพัฒนาอัตราการเต้นหัวใจ ลดความดัน และช่วยเผาผลาญไขมัน

7. เพิ่มความยืดหยุ่น

โดยทั่วไปแล้ว ชั้นเรียนคาราเต้จะประกอบด้วยการวอร์มร่างการและยืดเส้นยืดสายเป็นเวลาประมาณ 15 ถึง 20 นาทีก่อนทุกครั้ง เป็นที่รู้กันว่าการยืดกล้ามเนื้อมีความสำคัญเป็นอย่างมากก่อนการออกกำลังกายใดๆ รวมทั้งคาราเต้ด้วย

การยืดกล้ามเนื้อ การเตะ และท่วงท่าของคาราเต้อื่นๆ จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เพื่อที่คุณจะสามารถทำท่าทาง แบบฝึก และท่วงท่าต่างๆ ได้ หากคุณคอยยืดกล้ามเนื้ออยู่เสมอ คุณก็จะเห็นพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อย

 

8. เพิ่มความคล่องแคล่ว

ดังที่รู้กันว่าความคล่องแคล่วเป็นคุณลักษณะหลักของคาราเต้ ตลอดการฝึกฝนคาราเต้แบบต่างๆ คุณจะได้พัฒนาความสามารถในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในหลายทิศทาง คุณจะทึ่งว่าคุณสามารถออกฟุตเวิร์คที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว

การฝึกฝนบางอย่างของคาราเต้ จะช่วยเพิ่มความเร็ว ความคล่องแคล่ว และความไวเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพอันสำคัญของคาราเต้

 

9. การพัฒนาการทรงตัวและการเคลื่อนไหว

การใช้เทคนิคคาราเต้ใดๆ อย่างสมบูรณ์ จะไม่สามารถทำได้หากขาดการทรงตัวที่ดี ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า การทรงตัวและการเคลื่อนไหวนั้นเป็นสองคุณลักษณะหลักที่ต้องใช้ในการเคลื่อนไหวของคาราเต้ส่วนใหญ่

การฝึกเตะ คาตะ หรือแม้กระทั่ง คิฮง ของคาราเต้เป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาความสมดุลและการเคลื่อนไหว ยิ่งความสามารถในการทรงตัวของคุณดีขึ้นมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งเข้าถึงร่างกายของคุณมากขึ้นเท่านั้น และร่างกายก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คาราเต้ให้ประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างไร

ผู้ฝึกหลายคนเป็นพยานถึงคุณสมบัติทางสุขภาพที่น่าทึ่ง และจะบอกคุณว่าพวกเขาไม่เคยได้รู้สึกดีมากอย่างนี้มาก่อนในชีวิตจากการฝึกคาราเต้

คาราเต้จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการออกกำลังและการมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายที่ยืดหยุ่น คล่องแคล่ว และกำยำสมบูรณ์ คาราเต้ประกอบด้วยรูปแบบการรุกที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และเทคนิคการตั้งรับที่ใช้ทุกส่วนของร่างกาย (หมัด มือ เข่า ศอก และเท้า) ให้ได้ผลมากที่สุด

รูปแบบการเคลื่อนไหวแบบคาราเต้เหล่านี้สามารถใช้ได้ในรูปแบบของการฝึกเดี่ยว การฝึกคู่ หรือแม้กระทั่งการฝึกกับกระสอบ (อ่านบทความในการเลือกกระสอบที่เหมาะกับคุณที่สุดได้ที่นี่) หรือเป้าซ้อม คุณสามารถพบประโยชน์ทางสุขภาพจากการฝึกคาราเต้ได้นับไม่ถ้วน!

 

 

 

 

 

1. ช่วยลดน้ำหนัก

คาราเต้จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักและทำให้สุขภาพดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

หากคุณต้องการที่จะลดน้ำหนักส่วนเกิน ทำให้สุขภาพกลับเข้าที่เข้าทาง และกำจัดพุงที่ยื่นออกมา การฝึกคาราเต้จึงเป็นสิ่งที่เหมาะมากสำหรับคุณ

เนื่องจากการที่คาราเต้ใช้ทุกส่วนของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ แคลอรี่จำนวนมากจะถูกเผาผลาญในทุกชั้นเรียน คาราเต้มีการใช้ร่างกายทุกส่วนในการเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว และพัฒนาความเร็วและกำลังให้กับทั้งแขนและขา คุณจะได้ใช้มือ เท้า ศอก กับเข่า โดยทุกการโจมตีจะใช้กล้ามเนื้อส่วนท้องหลักและให้การออกกำลังทั้งร่างอันยอดเยี่ยม

โดยเฉลี่ยแล้ว ชั้นเรียนคาราเต้ที่เข้มข้นในระดับกลางหนึ่งชั่วโมงสามารถเผาผลาญได้ 500 แคลอรี่ ซึ่งหากคุณเข้าร่วมชั้นเรียนที่เน้นการซ้อมชกหรือฝึกกับเป้าซ้อม คุณก็จะสามารถเผาผลาญได้มากถึง 1000 แคลอรี่ในชั้นเรียนหนึ่งชั่วโมง คุณจะสังเกตได้ว่าไขมันส่วนเกินละลายหายไปอย่างรวดเร็ว

หากคุณต้องการลดน้ำหนัก การออกกำลังกายอย่างเดียวอาจไม่พอ คุณต้องรวมเอาคาราเต้กับการกินอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย คุณจึงควรเลือกแบบแผนการควบคุมน้ำหนักที่ได้ผล

 

2. พัฒนาการทรงตัวและท่าทางให้ดีขึ้น

มีรายงานมากมายเกี่ยวกับผลดีของคาราเต้ต่อท่าทางและการทรงตัว คาราเต้ได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทั้งความสมดุลขณะทั้งที่หยุดนิ่งและเคลื่อนไหว

เมื่อคุณได้เตะ ต่อย บล็อก หรือกระทั่งการหลบหลีก จุดศูนย์กลางของคุณจะถูกทดสอบด้วยคาราเต้ ที่ต้องใช้การเกร็งช่วงท้อง ผลที่ได้รับคือท่าทางโดยรวมและการทรงตัวที่ดีขึ้น การวางท่าทางที่ดีจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและจะทำให้คุณดูดีและรู้สึกดีขึ้น

การวางท่าที่ดีจะทำให้รู้สึกปวดหลังและปวดคอน้อยลงอีกด้วย ตลอดจนทำให้มีพลังงานและกำลังที่มากขึ้นตลอดทั้งวัน

 

3. เพิ่มคุณภาพในการนอนหลับ

การฝึกคาราเต้เป็นประจำไม่เพียงแต่จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นโดยรวมๆ แต่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นอีกด้วย การทำให้คาราเต้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมประจำสัปดาห์ มีส่วนต่อการนอนหลับที่สมบูรณ์ขึ้น เต็มอิ่มขึ้น และไม่ถูกรบกวน ซึ่งอาจช่วยแก้ไขความผิดปกติของการนอนหลับเช่นอาการนอนไม่หลับด้วย

 

4. พัฒนาความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ

โดยการการฝึกคาราเต้อย่างตั้งใจและสม่ำเสมอ คุณจะลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักและรู้สึกสุขภาพดีขึ้น การฝึกซ้อมคาราเต้ที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องอันเข้มข้น ต้องการสมรรถภาพร่างกายที่ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อผ่านไปสักระยะ ก็จะช่วยลดปัญหาความดันและอัตราการเต้นของหัวใจได้

 

5. ลดความเครียด

ได้มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยลดความเครียดได้ แต่ในการที่จะได้ออกกำลังในสังคมที่มีการส่งเสริมกันและกัน เช่นในโรงฝึกที่คุณฝึก ซึ่งช่วยคลายความกังวลได้มาก

การบริหารความเครียดในคาราเต้ปรากฏอยู่ในการฝึกหลายวิธี ที่ประกอบด้วยเทคนิคการหายใจและการผ่อนคลาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การฝึกเหล่านั้นอาจช่วยในการลดความเครียดและความวิตกกังวลได้

การฝึกฝนคาราเต้เต็มไปด้วยแบบฝึกการหายใจลึกๆ ซึ่งคล้ายกับเทคนิคของโยคะ ที่ทำให้เกิดความสงบผ่อนคลาย

6. เพิ่มกำลังวังชา

คาราเต้มีประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ข้อหนึ่งที่จะมีผลต่อทุกแง่มุมในชีวิตของคุณ นั่นคือกระปรี้กระเปร่า มีคำบอกกล่าวจำนวนมากที่บ่อยครั้งว่าคาราเต้ช่วยให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงและตื่นตัวตลอดเวลา

คุณจะได้สังเกตเห็นว่าการฝึกคาราเต้ทำให้เกิดความต้องการออกซิเจนที่มากขึ้น และจากการได้รับออกซิเจนมากขึ้น จะทำให้ความจุของปอดเพิ่มขึ้นจากการฝึกอีกด้วย

เมื่อได้ฝึกคาราเต้อย่างสม่ำเสมอไปพักหนึ่ง ประสิทธิภาพของหัวใจและหลอดเลือดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ร่างกายของคุณสามารถส่งออกซิเจนไปยังสมองและกระแสเลือดได้ดี ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัวขึ้น เฉียบคมขึ้น และเปี่ยมไปด้วยความพร้อม การฝึกคาราเต้อย่างสม่ำเสมอจะสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนสำหรับระดับพลังงานและอารมณ์โดยไม่ต้องสงสัย

ประโยชน์ด้านจิตใจของคาราเต้

จะได้ค้นพบประโยชน์ของคาราเต้ที่มีต่อร่างกายและจิตใจมากมาย คาราเต้จะช่วยสร้างความมั่นใจและความเคารพตัวเอง ทำให้มีจิตที่แข็งแกร่งและมั่นคง

คุณประโยชน์ต่อจิตใจทั้งหมดนี้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นและมีความแน่วแน่

อย่างที่สอง คาราเต้จะพัฒนาสุขภาพจิตของคุณจากการสอนให้เพ่งสมาธิและดึงเอาพลังจากจิตวิญญาณของคุณออกมา

1. ทำให้อารมณ์ดีขึ้น

แน่นอนว่าส่วนนี้ไม่ได้มีเฉพาะในคาราเต้เพียงอย่างเดียว การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินซึ่งทำให้คุณรู้สึกดี นักวิจัยได้ค้นพบว่าการเข้าร่วมชั้นเรียนคาราเต้อย่างสม่ำเสมอเป็นหนทางอันยอดเยี่ยมที่จะทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้น

การเล่นคาราเต้ไม่เพียงจะเป็นแนวทางอันดีเยี่ยมในการผ่อนคลายความเครียดและความคับข้องใจ แต่อาจทำให้คุณรู้สึกมีความสุขมากขึ้นอย่างแท้จริง สารเอ็นโดรฟินที่หลั่งออกมาจากการฝึกคาราเต้นั้น มีผลต่อร่างกายของคุณยาวนานมากถึงสี่ชั่วโมงหลังจากที่คุณออกจากโรงฝึก

 

2. ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น

การวิจัยเผยให้เห็นถึงประโยชน์ของคาราเต้ที่อยู่เหนือขอบเขตทางกายภาพ คาราเต้สามารถช่วยให้คุณรู้สึกแข็งแรงขึ้นและทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น คาราเต้เลื่องชื่อในการช่วยทำให้รู้สึกดีในทั้งด้านอารมณ์และจิตใจ และยังสามารถทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของคุณดีขึ้นอีกด้วย

การฝึกคาราเต้ยังช่วยลดอาการของผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต เช่นภาวะซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล ผู้ที่ฝึกซ้อมคาราเต้สองสามครั้งต่อสัปดาห์มักไม่อ่อนไหวง่ายต่อความวิตกกังวล มีแนวโน้มที่จะตื่นตระหนกและซึมเศร้าน้อยกว่า

คาราเต้จะนำพาไปสู่ตัวคุณที่มีความสุขขึ้นในที่สุด

3. สร้างความเคารพตัวเอง

คาราเต้จะปลูกฝังความมั่นใจด้วยการสอนถึงขีดจำกัดของตัวเรา โดยการทำให้เราอยู่เหนือความกลัวและพัฒนาภาพลักษณ์ที่มีต่อตัวเอง

เมื่อรูปลักษณ์ของคุณดีขึ้น คุณก็จะรู้สึกดีต่อตัวคุณเองและร่างกายของคุณมากขึ้นอย่างแน่นอน และด้วยการเรียนรู้กลยุทธ์การต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัว คุณจะมีความมั่นใจมากขึ้น จะเห็นได้ว่าเหตุเชื่อมโยงเหล่านี้มีอิทธิพลมากมายต่อความมั่นใจในตัวเองอย่างไม่มีข้อสงสัย

เมื่อคุณได้เรียนรู้และพัฒนาเทคนิคเพื่อนำไปใช้กับคู่ซ้อม คุณจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันเปี่ยมล้นของความสำเร็จ และความรู้สึกนี้เองที่จะช่วยให้คุณเคารพตัวเองและมีความมั่นใจ

อย่างที่กล่าวมา คาราเต้ไม่เพียงจะช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรง แต่ยังทำให้รู้สึกดีต่อตัวคุณเองมากๆ ด้วย

4. เพิ่มความมั่นใจ

การซ้อมกับคู่ฝึกเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ

การที่รู้ว่าเราสามารถป้องกันตัวเองได้และมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองนั้นเป็นความรู้สึกที่ดีเยี่ยม ความมั่นใจที่รู้ว่าเราสามารถปกป้องตัวเราเองและครอบครัวของเราจึงมีผลอย่างมาก

ความมั่นใจนี้จะติดตามคุณไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะในออฟฟิศหรือชั้นเรียน มันจะทำให้คุณแข็งแกร่งและเป็นคนที่ดีกว่า ความมั่นใจเหล่านี้เป็นสิ่งน่าทึ่งอันเป็นผลมาจากการฝึกคาราเต้

 

5. เพิ่มความอดทน

เทคนิคเป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้ในคาราเต้ทุกรูปแบบ แต่การทบทวนซ้ำๆ เป็นสิ่งสำคัญในการทำให้เกิดความเชี่ยวชาญในเทคนิคนั้นๆ ศิลปะการต่อสู้หลายสำนักกำหนดให้นักเรียนต้องฝึกซ้อมและทำให้เทคนิคสมบูรณ์ก่อนที่จะเลื่อนไประดับการฝึกถัดไปได้

การฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้จะสอนให้นักเรียนมีความอดทนมากขึ้น และไม่เฉพาะเพื่อการเรียนรู้กับความเชี่ยวชาญในท่าทางและเทคนิคต่างๆ แต่ต่อส่วนอื่นในชีวิตนอกเหนือจากในโรงฝึกอีกด้วย

 

6. เพิ่มความอ่อนน้อมถ่อมตน

ตั้งแต่การฝึกฝนพื้นฐานจนถึงการซ้อมกับคู่ฝึก การฝึกคาราเต้จะสอนให้คุณรู้อย่างรวดเร็วว่า ยังมีผู้ฝึกคาราเต้ที่เก่งกว่าและเชี่ยวประสบการณ์มากกว่าบนโลกภายนอก สิ่งเหล่านี้นับเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมในการเรียนรู้และเป็นเครื่องเตือนใจในการถ่อมตนสำหรับนักเรียน ว่ายังมีที่ว่างสำหรับการพัฒนาเสมอ และไม่มีช่องว่างสำหรับความถือตัว

 

7. เพิ่มความอุตสาหะ

การเป็นเลิศในคาราเต้ (หรือสิ่งใดก็ตาม) เป็นเรื่องยากและต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ต้องหมั่นฝึกฝนด้วยความอุทิศหลายพันต่อหลายพันชั่วโมง ทั้งต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมายกว่าจะได้เทคนิคใหม่ๆ และได้ผ่านการสอบเลื่อนสาย

ความสมบูรณ์แบบนั้นต้องแลกมาด้วยเลือด เหงื่อ และน้ำตา ต้องผ่านงานหนักและความทุกข์ยาก มีเพียงความพยายามเท่านั้นที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการฝึกฝนอย่างแท้จริง ไม่มีศิลปะการต่อสู้ใดที่เริ่มต้นด้วยท่วงท่าอันดีพร้อมและเทคนิคอันไร้ที่ติ จิตวิญญาณแห่งความพยายามและความมุ่งมั่นเท่านั้นที่จะผลักดันตัวเองไปข้างหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นเลิศในศิลปะการต่อสู้

 

8. เพิ่มความเคารพนอบน้อม

ความเคารพนอบน้อมเป็นหนึ่งในคำสอนหลักของศิลปะการต่อสู้ของจีนและญี่ปุ่น อีกทั้งคาราเต้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้ความเคารพในทุกแง่มุมของการฝึก นักเรียนต้องให้ความรวมมือกับเซ็นเซ (ผู้ฝึกสอนคาราเต้) ตลอดจนผู้ร่วมชั้นเรียนระหว่างการฝึกฝน พวกเขาต้องฝึกการทำความเคารพในระหว่างทุกชั้นเรียน และสนับสนุนให้นำสิ่งนี้ไปใช้นอกเหนือจากเวลาฝึกซ้อมด้วยเช่นกัน

9. ฝึกการเพ่งสมาธิ

หากคุณกำลังมองหาการฝึกที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการเพ่งสมาธิ คาราเต้อาจเป็นสิ่งที่ตรงต่อความต้องการของคุณ และเหมือนกับศิลปะของญี่ปุ่นอื่นๆ ที่คุณจำเป็นต้องจดจ่อไปในร่างกายและจิตใจเพื่อสำเร็จหน้าที่ซึ่งได้รับมาอย่างถูกต้อง

ในการฝึกเตะหรือต่อย ปัดป้องการโจมตี หรือการหลุดจากการรัดคอนั้น ต้องเพ่งสมาธิและใช้ความจดจ่ออย่างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อระดับของการตื่นตัวที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความเข้มข้นและความสามารถในการควบคุมความคิดและการกระทำให้มากขึ้น และเพิ่มความระแวดระวัง

มีเรื่องสำคัญที่ต้องรู้อยู่เรื่องหนึ่งว่า การฝึกซ้อมท่ายืนและคาตะต้องใช้สมาธิในการที่จะจดจำเทคนิคและการเคลื่อนไหวเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนั้นจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการโฟกัสให้คุณเป็นอย่างมาก

 

10. พัฒนาความอดทนทางด้านจิตใจ

ความอดทนทางจิตเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นตามกาลเวลาด้วยการผลักดันตัวเองผ่านความยากลำบากและความเจ็บปวด โดยการฝึกแบบการซ้อมชก (คุมิเตะ) หรือการทำลายแผ่นไม้ (ทาเมชิวาริ) คาราเต้จะผลักดันคุณให้ไปถึงขีดจำกัด เชื่อผมเถอะว่าคุณจะได้รู้จักตัวคุณเองมากขึ้นจากการฝึกเหล่านี้

ในแง่มุมของจิตวิญญาณ อุปสรรคเหล่านี้จะช่วยสร้างความอดทนให้กับจิตใจ และเพิ่มความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณไปด้วยกัน คุณจะสามารถรับมือกับความท้าทายหรืออุปสรรคต่างๆ ได้จากจิตของคุณที่ถูกสร้างให้อดทนด้วยคาราเต้ และจัดการปัญหาใดก็ตามที่อาจมาขัดขวางคุณได้ มันยังช่วยให้คุณนำเอาอารมณ์ออกไปข้างทางและเพ่งสมาธิกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้อีกด้วย

11. ทำให้ภายในสงบและเยือกเย็น

ในการฝึกอย่าง “โมคุโซ” หรือการทำสมาธิจะช่วยสร้างความสงบและความเยือกเย็นภายใน

ในแง่ประวัติศาสตร์และปรัชญา ศาสนาพุทธนิกายเซนมีอิทธิพลอย่างมากต่อวิวัฒนาการของศิลปะการต่อสู้ในจีนและญี่ปุ่น กล่าวง่ายๆ ว่า ศาสนาพุทธนิกายเซนและคาราเต้มีจิตวิญญาณเดียวกัน แก่นแท้เหมือนกัน

ในคาราเต้ ระหว่างการฝึกเดี่ยวหรือการฝึกกับคู่ซ้อม คุณจะได้เรียนรู้ที่จะเพ่งสมาธิไปยังการเคลื่อนไหวของคุณ เพื่อจะทำให้ตัวคุณอยู่กับปัจจุบันในขณะนั้น มันเป็นรูปแบบการทำสมาธิที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะนำพาให้คุณเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับตัวคุณเองและโลกรอบตัวคุณ

จากการรู้สึกถึงทุกช่วงขณะเวลาและเปิดรับประสบการณ์ทุกอย่างที่เข้ามา คุณจะพบกับความรู้สึกสงบที่ยิ่งใหญ่ภายใน ความสงบเยือกเย็นแห่งจิตใจเป็นประโยชน์ต่อการเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากทางกาย เช่นในสถานการณ์ที่ต้องป้องกันตัว และยังมีประโยชน์อย่างยิ่งในส่วนอื่นๆ ของชีวิตอีกด้วย เช่นในที่ทำงานหรือที่บ้าน ผู้ฝึกส่วนใหญ่กล่าวว่าคาราเต้ให้ความรู้สึกสงบและกลมกลืน และจากการฝึกฝนเหล่านั้น ทำให้มีโอกาสน้อยที่พวกเขาจะปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเครียดและความหัวเสีย

 

12. เพิ่มความเอาใจใส่

แนวคิดเหล่านี้มีจุดกำเนิดมาจากศาสนาพุทธนิกายเซนเช่นกัน ความเอาใจใส่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการฝึกคาราเต้ ระหว่างการฝึกฝน คุณต้องยึดอยู่กับปัจจุบัน ดังที่ภาพมายาของทั้งอดีตและอนาคตไม่มีอยู่จริง

ในคาราเต้ ชัยชนะหรือการพ่ายแพ้ตัดสินกันในชั่วพริบตา คุณต้องอยู่ในชั่วขณะนั้น ขณะที่กำลังตัดสินความเป็นความตายอยู่

นอกจากนั้น ความเอาใจใส่ยังให้ความรู้สึกของจิตที่กระจ่าง มีสมาธิ และมีความเต็มเปี่ยมทุกภาคส่วนของชีวิต

 

 

13. เพิ่มความมีระเบียบวินัย

เมื่อคิดถึงคาราเต้หรือศิลปะการต่อสู้อื่นๆ ของจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี พวกเขาจะคิดถึงความมีระเบียบวินัยในตนเอง ความมีระเบียบวินัยเป็นความสามารถในการบริหารและควบคุมอารมณ์ แรงดลใจ แรงผลักดัน และพฤติกรรมของตัวเอง

ระหว่างชั้นเรียนคาราเต้ คุณจะเรียนวิธีการนั่งและยืนที่เหมาะสม มาใช้ระหว่างการชุมนุมและการปฏิสัมพันธ์ สิ่งเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อจิตสำนึกอย่างลึกซึ้ง

ดังที่คุณอาจรู้อยู่แล้วว่าในคาราเต้มีการคารวะ (ถูกเรียกว่า เรย์ ในญี่ปุ่น) อยู่บ่อยครั้งพอตัว การคารวะไม่เพียงเป็นวิธีแสดงความเคารพและรู้สึกขอบคุณต่อผู้อื่น แต่ยังเป็นวิถีทางในการฝึกฝนจิตและอารมณ์ของคุณอีกด้วย

โดยการฝึกฝนคาราเต้อย่างสม่ำเสมอ สภาพจิตนี้จะค่อยๆ กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ ความมีระเบียบวินัยในตัวเองจะมอบพลังที่จะทำให้คุณแนวแน่อยู่กับสิ่งที่ตัดสินใจและพยายามจนสำเร็จ และมันจะทำให้คุณเป็นคนที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้      

สรุป

หลังจากได้อ่านบทความนี้แล้ว เราจะเห็นได้ชัดว่าคาราเต้สามารถมอบประโยชน์ให้ได้มากมาย ทั้งในเรื่องศิลปะการป้องกันตัว ความสมบูรณ์แข็งแรง การลดน้ำหนัก และความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม

โดยส่วนตัวแล้ว ผมได้ศึกษาและฝึกฝนคาราเต้อย่างกระตือรือร้นมาตลอด 35 ปีที่ผ่านมาในชีวิต และผมก็ไม่สามารถสื่อออกไปได้ดีพอว่ามันได้ให้ประโยชน์กับผมมากขนาดไหน ในทุกช่วงชีวิตของผม

ผมหวังอย่างแท้จริงว่า หากคุณไม่ได้ฝึกฝนคาราเต้อยู่แล้ว บทความนี้จะช่วยส่งเสริมและเป็นแรงบันดาลใจให้คุณค้นหาโรงฝึกที่ดีเยี่ยมและเริ่มการเดินทางอันแสนวิเศษในโลกที่สวยงามของวิชาคาราเต้ 

Who Am I?

Hi, my name is Martin Jutras. I've been studying and practicing Karate, practical self-defense and Zen Buddhism for more than 35 years.

I am the co-founder of Seionryu Karate, a school rooted in Okinawan Karate that aims to return to the source of Karate, beyond styles.

My wife being Japanese, we have the chance to visit Japan and Okinawa every year with our two kids.

Let's discover and explore together the benefits and richness of Karate's Lifestyle - Martial Arts, Self-Defense, Health, Spirituality and More!

 

Original article in English: https://www.thekaratelifestyle.com/what-are-the-benefits-of-karate/